ผู้สูงอายุติดคุก สามารถรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้หรือไม่ คำถามนี้ จนถึงปัจจุบันยังมีคนถามเข้ามาอยู่เรื่อยๆ นะครับ บางคนถามมาในกรณีที่ผู้สูงอายุเป็นคนพิการด้วย ทำให้การตอบคำถามมีการอธิบายแยกแยะออกไปอีก แต่วันนี้ขอพูดถึงเฉพาะกรณีที่เป็นเพียงแค่ผู้สูงอายุเท่านั้นครับ อย่าถามนะครับว่าผู้สูงอายุท่านนี้โดนข้อหาอะไร ข่มขืนป่าว HA HA
ก่อนหน้านี้พวกเรา นักพัฒนาชุมชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วก็ผู้ที่รับผิดชอบงานจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมองว่า การที่ผู้สูงอายุติดคุกอยู่ในเรือนจำ และได้รับเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ได้รับการรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย ได้รับอาหาร อะไรแบบนี้ครับ เราถือว่าผู้สูงอายุรายนั้นเป็นผู้ได้รับสวัสดิการจากรัฐ (ก็รัฐจ่ายค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าอะไรต่างๆ เหล่านี้คือสวัสดิการจากรัฐอ่ะ) เราเลยไม่จ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้กับผู้สูงอายุที่ติดคุก
และเรื่องการเป็นผู้ได้รับสวัสดิการจากรัฐในกรณีแบบนี้ ก็เป็นเรื่องที่ได้มีการถกเถียงกันอยู่เสมอๆ จากเพื่อนๆ ร่วมสายงานที่ปฏิบัติงานด้านสวัสดิการเบี้ยยังชีพเอง และจากเพื่อนๆ ในสายงานอื่นในบางครั้งบางวงสนทนา ซึ่งเป็นการถกเถียงด้วยเหตุด้วยผลเพื่อเพิ่มรอยหยักในสมองนะครับ ถกเถียง เห็นด้วย เห็นต่าง กันมานานสัปดาห์พอสมควร จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ที่มีหนังสือออกมาว่า ผู้สูงอายุที่ติดคุกสามารถที่จะรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ ก็มีเรื่องให้ถกเถียงกันอีกว่า กรณีก่อนหน้านี้ที่เราไปตัดสิทธิของผู้สูงอายุท่านนั้นล่ะ เราจะทำยังไง
ผู้สูงอายุติดคุก รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้
เมื่อเดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา มีหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0810.6 / ว 0352 ลงวันที่ 25 มกราคม 2560 เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุกรณีผู้สูงอายุต้องโทษจำคุก ออกมาครับหนังสือฉบับนี้บอกว่า การจ่ายเครื่องนุ่งห่ม การจัดการรักษาพยาบาล การจัดอาหารให้ผู้ต้องขัง ไม่ใช่สิ่งที่รัฐจัดให้เป็นพิเศษ หรือเป็นสิทธิประโยชน์แต่อย่างใด แต่เป็นการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เรื่อง การกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังในเรือนจำถือเป็นพลเมืองของประเทศเช่นกัน จึงควรได้รับสิทธิต่างๆ เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
กฏกระทรวงมหาดไทย ออกตามความในมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 ส่วนที่ 6 การอนามัยและการสุขาภิบาล หมวด 2 อนามัยของผู้ต้องขัง ข้อ 70 กำหนดให้จ่ายเครื่องนุ่งห่มหลับนอนแก่นักโทษเด็ดขาดตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
หมวด 3 การรักษาพยาบาล ข้อ 72 กำหนดให้เรือนจำทุกแห่งจัดให้มีสถานพยาบาลเพื่อเป็นการรักษาพยาบาลผู้ต้องขังที่ป่วย หมวด 4 การเลี้ยงอาหาร ข้อ 77 กำหนดให้จัดให้ผู้ต้องขังได้รับประทานอาหารอย่างน้อย 2 มื้อคือเช้าและเย็น อาหารมื้อหนึ่งๆ ให้ประกอบด้วยข้าวหรือสิ่งอื่นแทนข้าว และกับข้าวหรือสิ่งอื่นแทนกับข้าว เป็นต้น
ซึ่งสิ่งต่างๆ ดังกล่าวมิใช่สิ่งที่รัฐจัดให้มีขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้ผู้ต้องขังมีชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ที่ดีและสะดวกสบาย หรือเป็นสิทธิประโยชน์แต่อย่างใด แต่เป็นการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามหลักปฏิณญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เรื่อง การกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังในเรือนจำถือเป็นพลเมืองของประเทศเช่นกัน จึงควรได้รับสิทธิต่างๆ เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปตามที่กฏหมายบัญญัติไว้
ดังนั้นสรุปว่า ผู้สูงอายุที่ต้องโทษจำคุกในเรือนจำและได้รับสิ่งต่างๆ ในเรือนจำไม่ถือเป็นกรณีได้รับสวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ ก็เลยไม่ขัดกับระเบียบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปี 52 ข้อ 6 (4)
แล้วผู้สูงอายุติดคุกที่เราตัดสิทธิเขาไปก่อนหน้านี้ล่ะ
แล้วผู้สูงอายุติดคุกที่เราตัดสิทธิเขาไปก่อนหน้านี้ล่ะ ที่หลายๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เขาเหล่านั้นปฏิบัติตามหนังสือที่ออกมาก่อนหน้านี้ต้องทำยังไงล่ะ อย่างเช่น เมื่อมีผู้สูงอายุติดคุกคดีถึงที่สุดแล้ว เราก็ทำเรื่องระงับการจ่ายไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง บางแห่ง บาง อปท. ตัดชื่อออกจากประกาศด้วยอ่ะ จะต้องทำยังไง
ถ้าหากว่าเราได้ตัดรายชื่อของผู้สูงอายุที่ติดคุกท่านนี้ออกจากประกาศ (ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของ อบต.หรือเทศบาลเราน่ะครับ) คงจะต้องทำใจแล้วล่ะครับ เพราะต้องให้ท่านลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่เมื่อถึงเวลาลงทะเบียนคือในเดือนกรกฎาคมของทุกปี แต่ถ้าหากว่าเราไม่ได้ตัดรายชื่อออกจากประกาศในปีงบประมาณ 2560 เราก็สามารถจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้ท่านผู้นี้ต่อได้เลย และไม่ต้องไปใจดีจ่ายเงินย้อนหลังให้เขานะครับ เพราะหนังสือเพิ่งออกมาเมื่อมกราคมนี้เอง และก็อย่าลืมตอนเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้รับเบี้ยยังชีพด้วย แล้วถ้ามีใครไม่มาแสดงตน สอบถามหาข้อมูลดีๆ นะครับ เขาไปอยู่ที่ไหนยังไง อ่านรายละเอียดการแสดงตนได้ที่นี่
ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมีหนังสือตัวนี้ออกมา พวกเรา (ผมหมายถึงคณะกรรมการชมรมพัฒนาชุมชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แห่งประเทศไทย) ก็พอทราบมาบ้างว่า เดี๋ยวนี้ผู้สูงอายุติดคุกสามารถรับเงินเบี้ยยังชีพได้ แต่มันก็ยังไม่แน่ชัด ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากยังไม่เห็นเป็นหนังสือออกมา และส่วนมากคนถามก็มักจะขอหนังสือด้วย อย่างเช่น ถ้าเราตอบไปว่าได้ เขาจะถามต่อว่า ใช้หนังสือตัวไหน คงจะนึกภาพออกนะครับ ในเมื่อมันยังไม่มีหนังสืออย่างเป็นทางการ ก็ได้แต่บอกกันต่อๆ ไปในหมู่สมาชิกชมรมฯ ว่า ให้ปฏิบัติตามหนังสือสั่งการก่อนหน้านี้เรื่องผู้สูงอายุติดคุกไปก่อน
และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีคนไปถามในสายตรง สถ. ให้ท่านลองไปค้นดูว่าเขาถามเขาตอบกันยังไง ที่นี่ครับ
สรุป ผู้สูงอายุติดคุกเราจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เขาเหล่านั้นได้ในปีงบประมาณ 2560 นี้ (ในปีงบ 61 ไม่ต้องถามนะ เพราะหนังสือแจ้งแนวทางการรับลงทะเบียนเขาบอกไว้ว่าให้รับลงทะเบียนผู้สูงอายุที่ติดคุกด้วย ฉะนั้นห้ามถามว่าจ่ายได้มั้ย) แต่ถ้าเคยระงับการจ่ายเขาในปีงบที่ผ่านมา ก็ให้ทำเรื่องจ่ายเขาต่อ วงเล็บไว้นิดหนึ่งว่า ต้องมีชื่อในประกาศด้วยนะ และไม่จ่ายย้อนหลัง เคนะจ๊ะ
นักพัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
รองประธาน ชมรมพัฒนาชุมชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (แห่งประเทศไทย)
ลูกของแม่ และเพื่อนของท่าน