ผู้สูงอายุย้ายภูมิลำเนา มีปัญหาอีกแล้วครับท่าน มีปัญหาเหมือนกับคราวระเบียบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปี 52 ออกมาใหม่ๆ นั่นแหละครับ และคราวนี้ก็เหมือนๆ กันกับคราวก่อนๆ นั่นแหละครับ เป็นผู้สูงอายุที่มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอย่างเดียว ย้ายปลายทางจาก อบต.หนึ่ง มาที่ อบต.สอง อบต.หนึ่งก็รู้นะครับว่าย้าย แต่ไม่แจ้ง อบต.สอง ทราบ และน่าจะไม่แจ้งตัวผู้สูงอายุด้วย แล้วพอถึงเดือนกันยายน 2560 อบต.หนึ่ง ก็จ่ายเงินเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุท่านนี้เป็นเดือนสุดท้ายเลยเกิดเรื่องขึ้นมา
ผู้สูงอายุย้ายภูมิลำเนา เรื่องของเรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ
ผู้สูงอายุย้ายภูมิลำเนา มีเคสหนึ่งให้ศึกษา
ผู้สูงอายุที่รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอยู่แล้วท่านหนึ่ง ย้ายภูมิลำเนาจาก อบต.หนึ่ง มาอยู่ที่ อบต.สอง เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 ซึ่งเมื่อเดือนตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา อบต.หนึ่ง จะต้องรู้ว่าตาคนนี้ย้ายเพราะการตรวจสอบสถานะที่พวกเราทำกันเป็นประจำทุกปี
เมื่อรู้ อบต.หนึ่ง จะต้องแจ้งตาคนนี้ว่า ให้ไปลงทะเบียนที่ อบต.สอง นะภายในเดือนพฤศจิกายน 2560 นี้ และแจ้ง อบต.สอง ว่ามีคนแก่รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุย้ายไปอยู่ในพื้นที่ของท่านนะ ให้ท่านไปแจ้งให้เขามาลงทะเบียน แล้ว อบต.หนึ่ง ยังคงต้องจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้ตาคนนี้ต่อไปอีก 1 ปีงบประมาณ เพราะเงินงบประมาณของปีงบประมาณ 2561 เขา (กรมส่งเสริม) โอนมาให้ อบต.หนึ่ง อยู่ งงมั้ยแอร์
อ่าน การแสดงตนเพื่อรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปีงบประมาณ 61 ประกอบ
ทำไม อบต.หนึ่งถึง (เข้าใจผิดว่า) ต้องจ่ายเบี้ยถึงเดือนกันยายน 60
ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ข้อ 8 บอกว่า
“ผู้สูงอายุใดที่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ ต่อมาผู้สูงอายุนั้นได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ให้ผู้สูงอายุนั้นไปลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยตนเองต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ นับตั้งแต่วันที่ย้ายแต่ไม่เกินเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น ๆ ทั้งนี้ ให้ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ในปีงบประมาณถัดไป โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดิมที่จ่ายเงินเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุนั้นทราบเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ทั้งนี้ ในระหว่างปีงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดิมที่จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอยู่ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นยังคงจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อไปจนกว่าจะสิ้นปีงบประมาณ”
ไอ้ข้อความสุดท้ายนี่แหละครับ
ข้อความที่ว่า “…ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นยังคงจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อไปจนกว่าจะสิ้นปีงบประมาณ” นี่แหละครับที่ทำให้ อปท.หนึ่งจ่ายเบี้ยยังชีพถึงเดือนกันยายน 2560 แล้วก็หยุดจ่าย เพราะเดือนกันยายน 2560 เป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2560
แต่ท่านครับ ในตอนที่ผู้สูงอายุท่านนี้ย้ายมาที่ อปท.สอง นั้น ระเบียบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปี 60 ยังไม่ประกาศใช้ หรือถึงแม้จะประกาศใช้แล้วผมและนักพัฒน์หลายคนก็พอคาดเดาออกนะครับว่า ท่านอาจจะไม่ไปติดต่อขอลงทะเบียนก็เป็นได้ ทีนี้พอระเบียบนี้ประกาศใช้ ตาคนนี้แกไปยื่นลงทะเบียนภายในเดือนพฤศจิกายน 2560 นี้ (อาจจะก่อนเดือนพฤศจิกายน 60 ตามระเบียบ) นั่นคือแกยื่นขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปีงบประมาณ 2562 คือเริ่มรับเงินเดือนตุลาคม 2561 นะครับ ไม่ใช่งบ 61 เงินงบประมาณเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของปีงบ 2562 กรมจะต้องส่งมาให้ อปท. ที่แกไปลงทะเบียน ซึ่งก็คือ อบต.สอง เพราะฉะนั้น ปีงบประมาณ 2561 อบต.หนึ่ง ถึงต้องจ่ายต่อไปตามระเบียบที่บอกว่า “…จนกว่าจะสิ้นปีงบประมาณ” ถึงแม้ว่าตาคนนี้จะย้ายออกนอกพื้นที่แล้ว เพราะเงินงบประมาณของเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของปีงบประมาณ 2561 ส่งมาที่ อบต.หนึ่ง
เข้าใจคำว่า “…จนกว่าจะสิ้นปีงบประมาณ” หรือยังครับ
ถ้ายังไม่เข้าใจไปดูหนังสือฉบับนี้กันครับ
หนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0891.3/ว 2500 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2553 เรื่อง แนวทางการปฏิบัติในการจ่ายเงินตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยความพิการให้คนพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2553 บอกไว้ในแนวทางปฏิบัติข้อ 4 ว่า
“เมื่อเริ่มต้นปีงบประมาณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการจัดสรรงบประมาณของปีงบประมาณแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องดำเนินการจ่ายเงินตามวิธีที่กำหนด ด้วยเงินสด หรือเงินโอนผ่านบัญชีธนาคาร ตามความประสงค์ของผู้รับเงินทุกเดือน ภายในวันที่ 10 ตลอดทั้งปีงบประมาณตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรายงานขอให้ผู้มีสิทธิ แม้ว่าผู้มีสิทธิจะได้ย้ายทะเบียนบ้านออกไปแล้ว เนื่องจากได้ใช้ชื่อบุคคลนั้นของบประมาณเป็นการล่วงหน้ามาแล้ว”
มีหลายคนถามมาแล้วผมตอบไปแบบนี้แหละ เขาเหล่านั้นบอกว่า ระเบียบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเปลี่ยนเป็นของปี 60 แล้วไม่รู้เหรอ ผมรู้แล้วล่ะครับ วันนี้เลยนำภาพระเบียบข้อ 8 มาให้ดูเปรียบเทียบกันว่าหลักๆ แล้วข้อความในข้อนี้บอกว่ายังไง
โหลดหนังสือ ว 2500 ได้ที่นี่
นักพัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
รองประธาน ชมรมพัฒนาชุมชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (แห่งประเทศไทย)
ลูกของแม่ และเพื่อนของท่าน