Aids and HIV เหมือนกันมั้ย ต่างกันตรงไหน รับเบี้ยยังชีพได้มั้ย ผมว่าคำถามนี้มักจะได้ยินมาเสมอแหละครับ ทั้งทางเสียงผ่านทอระสับ หรือทางข้อความที่ส่งคำถามมาให้ตลอด ที่จริงก็เคยบอกไปหลายครั้งและหลายช่องทางแล้วล่ะครับ แต่อีกสักทีก็แล้วกัน วันนี้จะมาบอกเล่าผ่านทางเว็บนี้ก็แล้วกัน ถือว่าเป็นการบันทึกไว้อ่านอีกทีละกัน เนาะ…
Aids and HIV เหมือนกันมั้ย
กับคำถามว่า เอดส์กับเอชไอวี เหมือนกันมั้ย ตอบได้เลยว่า ไม่เหมือน
HIV หรือ Human Immunodeficiency Virus หมายถึง เชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งสามารถแบ่งตัวในเซลล์ของคน เช่น เม็ดเลือดขาว เซลล์สมอง เมื่อติดเชื้อ ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานต่อต้านเชื้อไวรัสแต่ไม่สามารถกำจัดได้หมด เชื้อยังคงอยู่ในเม็ดเลือดและแพร่ต่อไปได้ และจะทำลายเม็ดเลือดขาว ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมระบบภูมิต้านทานของร่างกาย ทำให้ภูมิต้านทานลดลง
AIDS หรือ Acquired Immune Deficiency Syndrome หมายถึง กลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว เป็นผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำกว่าปกติ ทำให้ติดเชื้อโรคฉวยโอกาสต่างๆ เช่น วัณโรค ปอดบวม หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ
แล้วทั้งสองอย่างต่างกันอย่างไร
เอชไอวี ไม่ใช่โรคนะครับ แต่เป็นเชื้อไวรัส อันนี้คุณหมอบอกมา ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีจะไม่ใช่ผู้ป่วย เพราะยังไม่มีอาการใดๆ แสดงออกมา ในช่วง 2 – 3 สัปดาห์หลังรับเชื้อ ร่างกายอาจมีอาการคล้ายไข้หวัด เจ็บคอ ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองโต จากนั้นจะหายไปเอง ส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อ นี่คือระยะที่ 1 หรือ ระยะไม่มีอาการ ผู้ที่อยู่ในระยะนี้เรียกว่า ผู้มีเชื้อเอชไอวี
ถ้าหากว่า ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ แล้วมีพฤติกรรมที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงได้ อย่างเช่น กินเหล้า สูบบุหรี่ นอนน้อย พักผ่อนน้อย ระดับภูมิคุ้มกันก็จะลดลงเรื่อยๆ และเชื้อไวรัสก็อาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าสู่ ระยะที่ 2 หรือว่า ระยะมีอาการ ซึ่งระยะนี้จะมีอาการที่เชื่อมโยงกับเอดส์ เช่น เป็นไข้เรื้อรัง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรังแบบไม่รู้สาเหตุ เชื้อราในปาก งูสวัด เป็นต้น
ส่วนเอดส์ ก็คืออาการที่เกิดต่อเนื่องจากการติดเชื้อเอชไอวี (ตามคำอธิบายย่อหน้าข้างบน) ซึ่งถ้าเข้าสู่ระยะที่สัมพันธ์กับเอดส์มันจะทำให้เม็ดเลือดขาวถูกทำลาย ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะต่ำ ทำให้เชื้อโรคที่มักจะฉวยโอกาสตอนร่างกายอ่อนแอเข้ามา เช่น โรคปอด โรควัณโรค หรือพวกมะเร็งต่างๆ
แล้วแบบไหนคือเอชไอวี แบบไหนคือเอดส์
เชื้อเอชไอวีแบ่งออกเป็น 3 ระยะครับ
ระยะที่ 1 หรือระยะแรก เป็นระยะที่ไม่มีอาการของโรคปรากฏให้เห็นเลย เรียกว่า อยู่ในภาวะเริ่มติดเชื้อ เมื่อเวลาผ่านไป 5-7 ปี ถึงจะเข้าสู่ระยะที่ 2
ระยะที่ 2 เรียกว่าระยะเริ่มมีอาการ จะมีลักษณะของตุ่มขึ้นตามร่างกาย มีเชื้อราในปาก (ที่ชาวบ้านบอกว่าลิ้นเป็นฝ้านั่นแหละครับ) เป็นงูสวัด และใช้เวลา 1-2 ปีก็จะเข้าสู่ระยะที่ 3
ระยะที่ 3 เป็นขั้นรุนแรงครับ เรียกว่า ระยะเอดส์เต็มขั้น ระยะนี้ภูมิคุ้มของร่างกายกันจะตกลงเร็วมาก แล้วจะมีอาการ เชื้อราขึ้นสมอง วัณโรค ต่อมน้ำเหลืองกระจายทั่วร่างกาย ปอดอักเสบ หรือเชื้อไวรัสขึ้นจอตาทำให้ตาบอด เป็นต้น ระยะนี้ผู้ติดเชื้อจะป่วยหนักถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว
สรุปแล้ว ผู้ป่วยที่ได้รับใบรับรองแพทย์มาว่า ติดเชื้อเอชไอวี อาจไม่ใ่ช่ ผู้ป่วยเอดส์ เพราะถ้าติดเชื้อระยะแรกยังไม่เป็นเอดส์นะครับ (ดูภาพหนังสือจากของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ประกอบครับ จะได้เข้าใจเพิ่มขึ้น)
แล้วแบบไหนที่ขอรับเงินสงเคราะห์ผู้ป่วยเอดส์ได้
ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 ได้ให้คำนิยามของ “ผู้ป่วยเอดส์” ไว้ว่า “ผู้ป่วยเอดส์” หมายความว่า ผู้ป่วยที่แพทย์ได้รับรองและทำการวินิจฉัยแล้ว นั่นก็คือ ถ้าใบรับรองแพทย์บอกมาว่าเป็น เอชไอวี HIV ภูมิคุ้มกันบกพร่อง แสดงว่าคนนั้นยังไม่ป่วยถึงขั้นเป็นเอดส์ครับ อย่างที่บอกว่า เอดส์ต้องติดเชื้อเอชไอวีก่อน
เอดส์มีหนังสือหารือหรือไม่
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562 มีหนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นตอบจังหวัดเชียงรายออกมาครับ รายละเอียดเป็นอย่างนี้ครับ
ในการแสดงตนประจำปีครับ นักพัฒน์ก็ให้ผู้ป่วยเอดส์เนี่ยมาแสดงตนว่ายังมีชีวิตอยู่ พร้อมให้นำใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐที่ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่มาแสดงด้วย ปรากฏว่าจากทั้งหมด 40 ราย มาแสดงตนพร้อมมีใบรับรองแพทย์ 39 ราย ที่โรงพยาบาลแจ้งว่าเป็นผู้ป่วยเอดส์มีเพียง 4 ราย
และระบุว่า 1.เป็นโรคติดเชื้อ HIV 2.ติดเชื้อ HIV 3.Unspecified human immunodeficicncy virus (HIV) disease จำนวน 34 ราย
หลังจากนั้นเขาได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลอีก ให้รับรองและวินิจฉัยว่าผู้ขอรับเงินสงเคราะห์ผู้ป่วยเอดส์จำนวนที่เหลือว่าเป็นผู้ป่วยเอดส์ตามความหมายในระเบียบปี 48 หรือไม่ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า โรงพยาบาลรับรองบุคคลผู้ขอรับเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ 34 ราย ความหมายเข้าได้กับผู้ป่วยเอดส์มากที่สุด
คำนิยามของเอดส์
ทีนี้มาดูนิยามของคำว่า ผู้ป่วยเอดส์ กันว่าเป็นอย่างไร ระเบียบ ปี 48 บอกไว้ว่า ผู้ป่วยเอดส์ หมายความว่า ผู้ป่วยเอดส์ที่แพทย์ได้รับรองและทำการวินิจฉัยแล้ว
ในประกาศคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ได้ให้ความหมายของ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ว่าหมายถึง ผู้ได้รับเชื้อเอชไอวีเข้าสู่ร่างกาย แต่ร่างกายยังแข็งแรงและทำงานได้ ส่วน ผู้ป่วยเอดส์ หมายถึง ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีภูมิภาวะคุ้มกันบกพร่อง และมีความเจ็บป่วยด้วยโรคฉวยโอกาส ซึ่งภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องและความเจ็บป่วยเหล่านี้สามารถรักษาไห้หายได้
เพราะฉะนั้น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ไม่ได้หมายความว่า เป็นผู้ป่วยเอดส์
นักพัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
รองประธาน ชมรมพัฒนาชุมชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (แห่งประเทศไทย)
ลูกของแม่ และเพื่อนของท่าน